Cité du vin : พิพิธภัณฑ์ไวน์ มา Bordeaux หนึ่งที่ต้องแวะ คือ พิพิธภัณฑ์ไวน์ หรือ “Cité du vin” …อ่ะ ๆ อย่าเพิ่งส่ายหัว หรือ “say no” แม้ว่าคุณจะไม่ใช่สายดื่ม… เพราะแม้แต่เด็กเล็ก (แนะนำตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป) ถ้าลองได้ก้าวขาเข้าไป ก็ยังชื่นชอบ (ลูกดิฉันนี่ ไปแล้ว ไปอีก ไปตั้งแต่เล็กๆ ทุกวันนี้ก็ยังชอบไปอยู่เลย) และถ้าคุณเป็นสายดื่มอยู่แล้ว ยิ่งไม่ควรพลาด… แล้วก็ลืมภาพพิพิธภัณฑ์แบบดั้งเดิม ที่มีตัวหนังสือยาวเป็นพรืด แบบแค่เห็นความยาวของแต่ละย่อหน้าก็ถอดใจ อยากร้องกลับบ้านตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เพราะที่นี่ ข้อมูล กิจกรรม สถานที่ รวมถึงวิธีการนำเสนอ ถูกออกแบบและจัดวางแบบ interactive ย่อยง่าย และทันสมัย ทำให้การเรียนรู้ ทำความเข้าใจวัฒนธรรมในการผลิตไวน์เป็นเรื่องสนุก น่าติดตาม เวลา 1 - 2 ชั่วโมงจะผ่านไปอย่างรวดเร็วแบบที่คุณไม่รู้ตัว เพราะมั่วแต่เพลิดเพลินกับการเรียนรู้ กดนั้น ดูนี่ อย่างสนุกสนาน ให้ความรู้สึกเหมือนไปเที่ยวเล่น มากกว่าไปพิพิธภัณฑ์เสียอีก…เริ่มรู้สึกน่าไปแล้วไหม ถ้าพร้อมแล้วเรียนเชิญค่ะ…
พอก้าวขาเข้าไป แน่นอนด่านแรกคือเคาน์เตอร์ขายตั๋ว😂😂 การเดินทางของเราจะเริ่มโดยการเดินขึ้นบันไดไม้ ที่ถูกออกแบบมาจากการจำลองไวน์ที่หมุนวนอยู่ภายในแก้ว (ไปให้สุด ไม่มีหลุดจากตรีม😜) บันไดนี้จะพาเราเดินวนขึ้นไปที่ชั้น 1 ขวามือจะเป็นห้องสมุด ที่สร้างเป็นรูปโดม มีหลังคาเป็นไม้สีสว่าง ตกแต่งให้ดูโปร่ง เรียบง่าย แต่ดูสบายตา บรรยากาศเชื้อเชิญให้นั่งสุดๆ ที่นี่รวบรวมหนังสือ ข้อมูลและการ์ตูนเกี่ยวกับไวน์ให้อ่านฟรี แถมมีเก้าอี้พร้อมสายชาร์จให้อีก แต่ไม่มีบริการให้ยืมกลับบ้าน (ไม่ต้องซื้อตั๋วก็ใช้บริการห้องสมุดได้ฟรี) ส่วนซ้ายมือจะเป็นห้องไว้สำหรับสัมมนา ห้อง work shop ต่าง ๆ (แนะนำให้ดูโปรแกรม หรือ book ก่อนมา) ต่อให้บรรยากาศชวนแวะแค่ไหน แต่อย่าเพิ่งหยุดที่นี่ เพราะเราต้องเดินขึ้นบันไดไม้วนขึ้นไปอีก 1 ชั้น การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของเราจะเริ่มอย่างเป็นทางการที่ชั้น 2 หลังจาก scan ตั๋วแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้ audio guide พร้อมหูฟัง ตัว audio มีหลายภาษาให้เลือก แต่ยังไม่มีภาษาไทยอยู่ในนั้น🥲 มี audio guide เวอร์ชั่นสำหรับเด็กด้วย อยากไปไหน ดูอะไร แค่เอาเครื่องนี้ไปยิงที่ code bar ตรงสิ่งที่เราสนใจ แต่ละอันจะสั้นๆ เนื้อหาเข้าใจง่าย ยิ่งเป็นเวอร์ชั่นสำหรับเด็ก มีมุกตลกและเกมส์แถมให้อีก😉
ส่วนพวกเรานั้น แน่นอนที่สุดต้องเลือกทาง “สายกลาง” แผนที่ไม่ต้อง เพราะขี้เกียจดู😂😂 เราจะเดินไปเรื่อยๆ แวะแทบทุกจุด อันไหนสนุก ถูกใจ คนไม่เยอะ พอให้ถ่ายรูปได้ เราก็แวะนานหน่อย😉 เริ่มต้นอุ่นเครื่องเบา ๆ พอให้สัมผัสบรรยากาศ กับฐานแรกซึ่งตั้งอยู่ที่ทางเข้า มีชื่อว่า “survol des vignobles / vineyards from the skies” ที่ ๆ เราจะเจอกับหน้าจอยักษ์ ขนาบ 3 ด้าน พร้อมม้านั่งยาวเรียงราย ที่จะพาเราชมทัศนียภาพไร่ไวน์ แบบกว้างสุดลูกหูลูกตา จากทั่วทุกมุมโลก ด้วยคลิป video ที่ถ่ายจากมุมสูง ถ้าจะดูให้ครบซีรีย์จะใช้เวลาประมาณ 8 นาที (เรารักคนอ่านขนาดไหน ถึงขนาดจับเวลาให้ด้วย😊) หลังจากเต็มอิ่มกับทัศนียภาพของไร่ไวน์ที่กว้างใหญ่ไพศาล คราวนี้เราจะหันมาสนใจของขนาดเล็ก อย่างเจ้าองุ่นลูกน้อย ๆ เพียงแค่เลี้ยวซ้ายแล้วเดินไม่ถึง 15 ก้าว เราจะเจอ ไม้หน้าสามเรียงต่อกัน โดยมีป้ายเขียว ๆ แดง ๆ หน้าตาอนุมาณว่าคือ พวงองุ่นติดเป็นระยะ ๆ องุ่นแต่ละพวงจะมีตัวอักษรติดอยู่ด้วย ฐานนี้มีชื่อว่า « Dans les vignes / In the Vine » เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ต้น กิ่ง ก้าน ใบ เถา ดิน และสายพันธุ์ขององุ่น ทุกคำที่แปะอยู่ที่เถาองุ่นแต่ละพวง เราจะพบคำตอบว่ามันคืออะไร จากการ scan ที่หน้าจอสีเหลี่ยมผืนผ้าที่ห้อยอยู่นั้นเอง ฐานนี้ดูเหมือนเล็ก ๆ ไม่ค่อยมีอะไร แต่เห็นจำนวนป้าย บอกเลยใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน (ถ้าจะฟังให้ครบก็ต้องมี 15 นาที) แต่เป็นหนึ่งฐานที่แนะนำว่าต้องแวะเลย และถ้ายิ่งมากับเด็กยิ่งแนะนำ เพราะมันมีเกมส์ให้เล่น (แย่งลูกเล่นไปอีก😂) presentation แต่ละอันแค่สั้น ๆ มีทั้งแบบ ภาพ video และข้อความให้อ่าน เป็น 15 นาที ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว และไม่น่าเบื่อแน่นอน รู้จักสายพันธุ์แล้ว ต่อมาเราจะชวนไปทำไวน์ในฐานที่มีชื่อว่า « L’élaboration du vin / Wine making » องุ่นเก็บมาแล้ว จากนั้นต้องทำไงต่อ กว่าจะมาเป็นไวน์ 1 ขวด นี่คือสิ่งที่เราจะได้เรียนรู้จากฐานนี้ ไม้พาย ตระกร้า เครื่องจักร ถังบ่มไวน์ สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็น เพราะฐานนี้เราจะทำไวน์ด้วยมนต์วิเศษ ที่ใช้เพียง นิ้วชี้จิ้มที่หน้าจอแต่ละอัน เลือกไวน์ขาว ไวน์แดงตามชอบใจ แล้วเราก็จะเข้าสู่กระบวนการ ตั้งแต่ แยกองุ่น คั้นน้ำ แยกเปลือก ใส่ถังหมัก จนกระทั้งบรรจุขวดพร้อมส่งโรงบ่ม ทั้งหมดนี้เสร็จง่าย ๆ ด้วยปลายนิ้วชี้ ในเวลาแค่เพียง 8 นาที ฐานนี้เด็ก ๆ ต้องแวะ เพราะมี 3 เกมส์ให้เล่น หนึ่งในนั้นคือการสร้างถังบ่มไวน์ของตัวเองด้วย (แม่อย่างดิฉัน มีหรือจะพลาด ไปขอเล่นของลูกอีกตามเคย😂)
ออกจากเรือ เราขอนำเสนอให้ไปพักกาย พักใจกันต่อที่ฐาน « vin de l’amour / wine and love » โดมกลม ๆ ที่พอแหวกม่านสายสลิงสีขาวเข้าไป จะพบที่นั่งสีแดงทอดยาวเป็นรูปครึ่งวงกลม เย้ายวนชวนนั่งเป็นที่สุด ถ้ามาเป็นคู่ นี่คือฐานที่โรแมนติกที่สุด และที่นั่งสบายสุด บรรยากาศชวนให้เคลิบเคลิ้ม และเหมาะกับการนอนเป็นอย่างยิ่ง ฐานนี้เหมาะกับการปล่อยใจ และปล่อยกายที่สุด เพราะแค่นอนหลังพิงเก้าอี้ หงายหน้า ตาจ้องเพดาน และปล่อยใจให้รับรู้เรื่องราวความรัก ผ่านภาพที่มีลวดลายศิลปะแนวโรมัน (เป็นความโรแมนติก เคลือบแฝงมากับความอีโรติกเบา ๆ ในระดับของงานศิลปะ แบบไม่มากไป แต่มีอะไรให้ตีความต่อ) ในขณะที่หู จะได้ยินเสียงเพลงลอยแว่วมา พร้อมด้วยเสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ เสียงฝน เสียงฟ้าร้องและอื่นๆ แบบครบทุกองค์ประกอบของความรัก แบบ สุข เศร้า เคล้าน้ำตา ครบทุกช่วงเวลา ตั้งแต่รักใหม่ผลิใบ ไปจนถึงจากลาใบไม้ร่วงหล่นจากต้น จนกระทั่งฟ้ายังหลั่งน้ำตา…(เรื่องมันเศร้า เคล้าน้ำตาจริง ๆ )
2 Comments
Ran
3/7/2022 07:12:54
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัยมาก ดูสะอาดสะอ้านน่าเดิน เราชอบที่มีให้ฟังได้หลายภาษานะ มีคลิปไหม? อยากดูโดมแห่งรัก บรรยากาศโรแมนติก อยากปล่อยกายปล่อยใจบ้าง 😂
Reply
Bee
3/7/2022 10:43:21
น่าเดินมาก…แต่ละฐานก็สนุก วิวชั้นบนดีมากด้วย(เดียวจะพาไปบทความหน้านะ) แต่ที่นี่ไม่สะดวกในการทำคลิปเลยค่ะ…
Reply
Leave a Reply. |